ยุคแรกของการรถไฟ ขนาดหัวรถจักรและรถกลิ้งมีขนาดเล็กพอที่จะขึ้นรางใหม่ด้วยตนเองโดยใช้แม่แรงและรอก แต่เมื่อต่อได้พัฒนาเริ่มมีขนาดที่ใหญ่ขึ้นและหนักขึ้น ทำให้ไม่สามารถใช้วิธีนี้ได้อีก
ต่อทศวรรษ 1980 (หรือ ประมาณปี พ.ศ. 2433) ได้เข้าสู่เครนไอน้ำและเครื่องกว้านสายเคเบิล ได้พัฒนาทำให้มีขนาดเพิ่มขึ้นอีก ทำให้เครนไอน้ำถึงจุดสูงสุดของการพัฒนา (สำหรับบนทางรถไฟ)
ในช่วงทศวรรษ 1980 เครนดีเซลควบคุมด้วยระบบไฮดรอลิกขนาดใหญ่ได้ปรากฏขึ้น ใช้สำหรับการเดินทางบนทางหลวง เพื่อให้สามารถไปถึงที่เกิดเหตุได้ดีขึ้น
ช่วงปลายทศวรรษ 1970 และต้นทศวรรษ 1980 การใช้รถไถตีนตะขาบแบบติดตั้งด้านข้าง (pipelayers) ช่วยให้ผู้รับเหมาสามารถเคลื่อนย้ายไปรอบๆ ไซต์งานได้โดยไม่ต้องใช้เสื่อเครนและตำแหน่งยกหลายตำแหน่ง
จนถึงในปี 1990 ได้มีการพัฒนาเครนรางรถไฟรุ่นใหม่ รถเครนไฮดรอลิกแบบใช้ถนนแบบทั่วไปถูกนำมาใช้กับรถเข็นขนาดเล็กบางรุ่นเพื่อเคลื่อนที่บนรางรถไฟ รุ่นใหม่นี้มีโครงรถไฟความเร็วสูงแบบมืออาชีพที่วิ่งได้สูงถึง 120 กิโลเมตรต่อชั่วโมง (75 ไมล์ต่อชั่วโมง) โครงสร้างส่วนบนเป็นไฮดรอลิกดีเซลพร้อมบูมยืดไสลด์และถ่วงน้ำหนัก ถูกออกแบบสำหรับรางรถไฟโดยเฉพาะ