เครนเคลื่อนที่ ใช้ในการยก เคลื่อนย้าย วางตำแหน่ง และวางวัสดุอุปกรณ์
เครนเคลื่อนที่ ใช้ในการยก เคลื่อนย้าย วางตำแหน่ง และวางวัสดุอุปกรณ์

การใช้งานเครนเคลื่อนที่ (Mobile Crane)

   การใช้งานควบคุมรถเครนเคลื่อนที่ มักใช้ในการก่อสร้างอาคารและการประกอบอุปกรณ์ขนาดใหญ่ ใช้ในสถานที่ต่างๆ เช่น สถานที่ก่อสร้าง คลังสินค้า และท่าเรือ เพื่อทำงานที่เกี่ยวข้องกับพลังงานให้เสร็จสิ้นได้อย่างปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ

เครนเคลื่อนที่ทำงานอย่างไร

ตัวดำเนินการเครนเคลื่อนที่ช่วยให้เครนเคลื่อนที่สามารถยก เคลื่อนย้าย วางตำแหน่ง และวางวัสดุและอุปกรณ์ และดำเนินการตรวจสอบก่อนการปฏิบัติงาน ใช้ในการคำนวณความจุของเครน กำหนดน้ำหนักบรรทุก ตั้งค่า ตำแหน่ง และทำให้เครนเสถียรก่อนทำการยก ผู้ให้บริการเครนเคลื่อนที่มีหน้าที่เพิ่มเติมในการถอดประกอบ เดินทาง และขนส่งเครนเคลื่อนที่ และยังมีส่วนร่วมในขั้นตอนการติดตั้ง
เครนเคลื่อนที่ยังดำเนินการบำรุงรักษาและดูแลทำความสะอาดอุปกรณ์เครนเป็นประจำ เช่น การหล่อลื่นและการทำความสะอาด มีการใช้ในภาคอุตสาหกรรมต่างๆ คนขับรถเครนเคลื่อนที่อาจได้รับการว่าจ้างจากบริษัท บริษัทก่อสร้าง ผู้ผลิต สาธารณูปโภค บริษัทภาคขนส่งช่างต่อเรือ เจ้าหน้าที่จัดการสินค้า สนามบิน ทางรถไฟ และเหมืองแร่

ประเภทของเครนเคลื่อนที่

รถเครนมาในรูปแบบที่แตกต่างกันและขนาดเช่นรถเครนรถบรรทุกบูมรถเครนรวบรวมข้อมูลรถบรรทุกติดเครน , รถเครนภูมิประเทศขรุขระ, และรถเครนภูมิประเทศ บูมของเครนอาจเป็นโครงตาข่ายหรือแบบยืดไสลด์ เครนเคลื่อนที่บางตัวติดตั้งอุปกรณ์ต่างๆ เช่น สว่านเจาะกระแทก หอยแมลงภู่ สายลาก ลูกบอลทำลาย แม่เหล็ก และตะกร้าบุคลากร ซึ่งสามารถทำหน้าที่เฉพาะได้ พวกเขาอาจติดตั้งอุปกรณ์ยึดสำหรับยกของหนัก อุปกรณ์เสริมสำหรับหอคอย และแขนกล luffing บางคนมุ่งความสนใจไปที่ฟังก์ชันต่างๆ ของเครน

ทักษะผู้ประกอบการรถเครนเคลื่อนที่

ผู้ให้บริการรถเครนเคลื่อนที่อาจทำงานเป็นเวลาหลายปีในไซต์ขนาดใหญ่แห่งเดียว โดยใช้เครนเคลื่อนที่ประเภทเดียวและขนาดเดียว การทำงานของเครนเคลื่อนที่บางตัวมีความต้องการทางกายภาพ ที่ซึ่งผู้ปฏิบัติงานมีปฏิสัมพันธ์กับผู้ค้า ผู้รับเหมา และลูกค้ารายอื่นๆ ทักษะของผู้ให้บริการเครนเคลื่อนที่สามารถถ่ายทอดไปยังการใช้งานเครื่องจักรกลหนักอื่นๆ ด้วยประสบการณ์ ผู้ให้บริการรถเครนเคลื่อนที่อาจย้ายไปประกอบอาชีพได้ เช่น เจ้าของธุรกิจ หัวหน้างาน ผู้ฝึกสอน และผู้ประสานงานงาน

ข้อดีของผู้ให้บริการรถเครนเคลื่อนที่มีมากมาย ซึ่งบางส่วนได้แก่

1.ให้ความคล่องตัวและการเคลื่อนย้าย
2.เสนอการตั้งค่าที่รวดเร็ว
3.ให้ระดับความแรงที่สูงขึ้น
4.ให้โซลูชันที่คุ้มค่า

เคล็ดลับความปลอดภัยในการใช้งานเครนเคลื่อนที่

คำแนะนำด้านความปลอดภัยในการใช้งานเครนเคลื่อนที่ขนาดเล็กหรือขนาดใหญ่มีความสำคัญอย่างยิ่ง นี่คือบางส่วนที่คุณต้องปฏิบัติตาม

1.อย่าแทนที่คอมพิวเตอร์ของเครนเคลื่อนที่
2.ระวังอันตรายจากค่าใช้จ่ายทั้งหมด
3.ระวังสัญญาณมือเครนเคลื่อนที่
4.อ่านแผนภูมิการโหลด – ก่อนเปลี่ยนกุญแจในเครนเคลื่อนที่ตัวใหม่
5.โทรศัพท์มือถือในห้องโดยสาร – ขณะที่กุญแจของรถเครนบนโทรศัพท์มือถือปิดอยู่
6.สังเกตเงื่อนไขที่เปลี่ยนแปลงในไซต์งานเสมอ
7.บางครั้งในสถานการณ์การทำงาน ผู้ควบคุมเครนจำเป็นต้องหยุด ประเมิน และค้นหาแผนลิฟต์ที่ปลอดภัยกว่า
8.การตรวจสอบสภาพพื้นดินเป็นสิ่งสำคัญมากก่อนการติดตั้งเครน
9.ตรวจสอบให้แน่ใจว่าไซต์นั้นเหมาะสมที่จะรองรับเครนเคลื่อนที่ของคุณและโหลดที่ถูกระงับในอนาคต
10.ก่อนสตาร์ทเครน ให้ตรวจสอบระดับน้ำมัน ก๊าซ และของเหลวอื่นๆ ทุกครั้ง

การใช้งานเครนเคลื่อนที่ Read More »

ประเภทเครน ใช้งานในอุตสาหกรรมก่อสร้าง
ประเภทเครน ใช้งานในอุตสาหกรรมก่อสร้าง

ประเภทของเครนที่ใช้ในงานก่อสร้าง (Cranes)

     ประเภทรถเครนที่ใช้ในงานก่อสร้าง ทางวิศวกรรมโยธามีหลายประเภท ปั้นจั่นเป็นชิ้นส่วนของเครื่องจักรกลหนักที่เป็นหอคอยหรือแท่นที่ติดตั้งสายเคเบิลและรอก ใช้สำหรับยกและลดวัสดุ การใช้งานทั่วไปของเครนคือในอุตสาหกรรมก่อสร้างและการผลิตเครื่องจักรกลหนัก

เครน หรือที่เรียกว่าปั้นจั่น ที่ใช้ในการก่อสร้างมักเป็นโครงสร้างชั่วคราวและจะยึดกับพื้นหรือติดตั้งบนยานพาหนะ ผู้ปฏิบัติงานสามารถควบคุมเครนจากภายในห้องโดยสารที่เคลื่อนที่ด้วยเครน โดยการควบคุมด้วยวิทยุ หรือโดยสถานีควบคุมจี้ปุ่มกด เครนมีหลากหลายชนิด วัตถุประสงค์การทำงาน และสภาพแวดล้อม เครนใช้ในสถานการณ์และสภาพแวดล้อมที่แตกต่างกันออกไป

ประเภทเครน ที่ใช้กันทั่วไปตามโครงการ มีดังต่อไปนี้

1. เครนยืดไสลด์ (Telescopic Crane)

เครนแบบยืดไสลด์มีบูมที่มีท่อจำนวนหนึ่งติดตั้งอยู่ภายในอีกหนึ่งท่อน มีกลไกไฮดรอลิกจะขยายหรือหดท่อให้ยาวหรือสั้นลงของบูม ขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้าไฮดรอลิกพร้อมด้วยหน่วยพลังงานไฟฟ้า

2. เครนเคลื่อนที่ (Mobile Cranes)

เครนประเภทนี้ เป็นลักษณะพื้นฐานที่สุด ประกอบด้วยโครงเหล็กหรือบูมยืดไสลด์ซึ่งติดตั้งอยู่บนแท่นเคลื่อนสามารถเคลื่อนย้ายได้ เครนประเภท อาจจะใช้แบบเป็นรางที่มีล้อเลื่อน หรืออาจเป็นแบบรถบรรทุก มีบูมเป็นแบบบานพับที่ด้านล่าง โดยสามารถยกหรือลดระดับได้ด้วยสายเคเบิลหรือกระบอกไฮดรอลิก

3. เครนติดรถบรรทุก (Truck Mounted Crane)

หรือเรียกว่า “รถเฮี๊ยบ” นี่คือเครนขับเคลื่อนไฮดรอลิกที่มีแขนข้อต่อซึ่งติดตั้งกับรถพ่วง เครนยกของใช้สำหรับบรรทุกอุปกรณ์บนรถพ่วง ใช้สำหรับขนของที่มีขนาดใหญ่และมีน้ำหนักมาก เครนสามารถพับเป็นส่วนๆ ได้หลายส่วน และจะพอดีกับพื้นที่ขนาดเล็กเมื่อไม่ใช้งาน เครนสามารถเคลื่อนย้ายได้ง่ายเนื่องจากสามารถพับเก็บได้

4. ทาวเวอร์เครน (Tower Crane)

ทาวเวอร์เครน (เครนหอสูงหรือปั้นจั่นหอสูง) ถือเป็นเครนทรงตัวที่ทันสมัยแบบยึดกับพื้น ใช้ยกของในแนวดิ่งและเคลื่อนที่ไปตามแนวราบ เคลื่อนที่ขนย้ายของได้ 6 ทิศทาง เครนประเภทนี้มักจะให้ความสูงและความสามารถในการยกได้ดีที่สุด ติดตั้งรางวิ่ง (Crane Run Way) โครงสร้างสูงกว่าระดับพื้น ใช้ในการสร้างอาคารสูง พบในไซต์งานก่อสร้างเสียเป็นส่วนใหญ่ ใช้ยกสิ่งของที่มีน้ำหนักได้มากสามารถทุ่นแรงงานได้ดี

5. รถเครน 4 ล้อ (Rough Terrain Crane)

รถเครนขับเคลื่อน 2 ล้อ หรือ 4 ล้อ ออกแบบเพื่อใช้งานในสภาพพื้นที่ที่ขรุขระ เครนติดตั้งอยู่บนโครงส่วนล่างที่มียางสี่เส้นและได้รับการออกแบบให้ใช้งานแบบออฟโรด รอกสามารถขยายในแนวตั้งและแนวนอนเพื่อให้เครนมีเสถียรภาพและปรับระดับได้เมื่อยกของหนัก เครนประเภทนี้เป็นเครื่องยนต์เดี่ยว ซึ่งหมายความว่าใช้เครื่องยนต์เดียวกันเพื่อขับเคลื่อนช่วงล่างและเครน ไม่เหมาะสมกับงานระยะทางที่วิ่งไกล

6. เครนเหนือศีรษะ (Overhead Crane)

หรือ “เครนอุตสาหกรรม” เครนประเภทนี้เรียกอีกอย่างว่าเครนแบบแขวน โดยทั่วไปจะใช้ในโรงงานและบางส่วนสามารถยกของหนักได้ รอกของปั้นจั่นตั้งอยู่บนรถเข็นซึ่งจะเคลื่อนที่ไปในทิศทางเดียวตามลำแสง บางครั้งก็มีคานสองอัน ใช้ยกสิ่งของขึ้นลงตามแนวดิ่งและเคลื่อนย้ายสิ่งของเหล่านั้นในลักษณะแขวนลอยไปตามแนวราบ พวกมันเคลื่อนที่เป็นมุมไปยังทิศทางตามทางยกระดับหรือระดับพื้นดิน รางมักจะติดตั้งที่ด้านข้างของพื้นที่ประกอบ มีโครงสร้างที่ไม่ใหญ่มากนักและใช้พื้นที่น้อย สามารถเคลื่อนที่ยกวัตถุได้ง่าย

6.1 เครนเหนือศีรษะแบบคานเดี่ยว ใช้สำหรับยกวัตถุที่ไม่หนักมาก ซึ่งควรมีความกว้างตั้งแต่ 6-25 เมตร และควรมีน้ำหนักยกตั้งแต่ 0.1 ตัน – 12.5 ตัน เป็นมาตรฐาน

6.2 เครนเหนือศีรษะแบบคานคู่ เหมาะสมกับโรงงานอุตสาหกรรมที่ใช้งานยกน้ำหนักที่หนักมาก ซึ่งควรมีความกว้างใช้งานตั้งแต่ 10 – 30 เมตร และควรมีน้ำหนักยกตั้งแต่ 5 ตัน ถึง 50 ตัน เป็นมาตรฐาน

     วิศวกรรมโยธาใช้เครนหลายประเภทในระหว่างโครงการ สามารถใช้เคลื่อนย้ายเครื่องจักรกลหนักหรือเครื่องจักรได้ที่มีน้ำหนักมากๆได้ เครนหลายประเภทสามารถเคลื่อนย้ายอุปกรณ์ไปยังร่องลึกหรือลงเนินสูงชันได้อย่างรวดเร็วและง่ายดาย สามารถเคลื่อนย้ายวัตถุขนาดใหญ่จากที่หนึ่งไปอีกที่หนึ่งได้ เครนมีประโยชน์ในกระบวนการก่อสร้างอาคาร สะพาน และสะพานลอย พวกเขาเป็นสินทรัพย์ที่ขาดไม่ได้สำหรับสาขาการก่อสร้างและวิศวกรรม ใช้ในการก่อสร้างอาคารบ้านเรือนหรืออาคารสูงต่าง ๆ แล้ว ยังสามารถนำรถเครนมาประยุกต์การใช้งานในด้านต่าง ๆ ได้อย่างหลากหลายอีกด้วย และเครนยังได้กลายเป็นสิ่งที่พบเห็นได้ทั่วไปในการทำงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการยกของหนักหรือการยกวัสดุขึ้นบนพื้นที่ที่สูงขึ้น ดังนั้นการใช้เครนที่เหมาะสมจึงมีความสำคัญในงานก่อสร้าง

ประเภทของเครนที่ใช้ในงานก่อสร้าง Read More »

การทำงานรถขุด กำหนดโดยแรงของฟันขุด และขนาดของบุ้งกี้
การทำงานรถขุด กำหนดโดยแรงของฟันขุด และขนาดของบุ้งกี้

สมรรถนะรถขุดแบบตักเข้าหาตัว (Excavator)

สมรรถนะการทำงานของรถขุด แบบตักเข้าหาตัวรถจะถูกกำหนดโดยขอบเขตของการทำงาน (Working Range) แรงของฟันขุด (Footh Force) และขนาดของบุ้งกี๋ (Bucket Size)

การทำงานของรถขุด

ขอบเขตการทำงานรถขุดที่แสดงตามรูป มีรายละเอียดคือ

1. ระยะไกลสุดในแนวระดับ (Maximum Reach) คือ ระยะที่วัดจากแกนหมุนไปยังปลายฟันของบุ้งกี๋เมื่อยื่นแขนออกไปไกลสุดในแนวระดับ
2. ระยะลึกสุดในการขุด (Maximum Depth) คือ ระยะที่วัดจากพื้นระดับในแนวดิ่งไปยังปลายฟันของบุ้งกี๋เมื่อยื่นแขนอยู่ที่ตำแหน่งต่ำสุด
3. ระยะยกสูงสุด (Maximum Height) คือ ระยะที่วัดจากพื้นระดับในแนวดิ่งไปยังส่วนบนสุดของอุปกรณ์ขุดเมื่อแขนอยู่ที่ตำแหน่งสูงสุด
4. บริเวณการขุด (Digging Range) คือ บริเวณที่ต่ำลงจากพื้นระดับที่ฟันของบุ้งกี๋สามารถไปถึง ซึ่งแสดงโดนเส้นขอบเขตที่ฟันของบุ้งกี๋ไปถึงเมื่อยึดแขนออกไปมากที่สุดในแต่ละตำแหน่ง
5.บริเวณการขุดในแนวระดับ (Level Clean Up Area) คือ บริเวณที่ต่ำลงจากพื้นระดับที่บุ้งกี๋สามารถขุดพื้นของหลุมให้อยู่ในแนวระดับโดยไม่ต้องเลื่อนตัวรถ ซึ่งจะขึ้นอยู่กับระดับความลึกที่จะขุด บริเวณการขุดในแนวระดับ (**ที่แรงเงาตามรูป)

สมรรถนะรถขุดแบบตักเข้าหาตัว Read More »

รถตักล้อยาง ใช้สำหรับตักหิน ดิน ทราย ตามปริมาณที่ต้องการ
รถตักล้อยาง ใช้สำหรับตักหิน ดิน ทราย ตามปริมาณที่ต้องการ

การเลือกใช้งานรถตักล้อยาง

การใช้งานรถตักล้อยาง การเลือกชนิดขนาดและจำนวนรถตักที่จะสามารถตักหินหรือหินให้ได้ตามปริมาณที่ต้องการในทางปฏิบัติพบว่ารถตักขนาดใหญ่น้อยคันทำงานได้ดีกว่ารถตักขนาดเล็กหลายคันและงานขุดตัก ถ้าใช้รถตักจำนวนมากเกินไปค่าใช้จ่ายในการตักสูงแต่ถ้าใช้จำนวนน้อยจะทำให้เกิดการรอคอยหรือคอขวด (Bottom neck) ที่งานตัก ทำให้ค่าใช้จ่ายในการตักสูงขึ้น เช่นกัน

ชนิดของดิน (Soil Types) ที่นำมาบดอัด

ปัจจัยที่ควรพิจารณาในการเลือกขนาดและชนิดของรถตัก ได้แก่

1. การเลือกชนิดรถตักและขนาดของบุ้งกี๋รถตักนั้นจะต้องสัมพันธ์กับขนาดปากโม่ที่รับหินได้ เนื่องจากจะทำให้หินขนาดใหญ่เกินไปไม่ติดค้างที่ปากโม่
2. ขนาดของบุ้งกี๋รถตักจะต้องสัมพันธ์กับขนาดของรถบรรทุกจำนวนครั้งของการตักจะต้องพอดีกับความสามารถของรถที่บรรทุกได้
3. ความสูงในการตักจะต้องเหมาะสม
4. ความคล่องตัวและความปลอดภัยในการทำงาน
5. ความสามารถในการขจัดสิ่งกีดขวาง
6. เงินลงทุนและค่าใช้จ่ายในการตักพร้อมทั้งค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษา

ความสามารถในการทำงานรถตักล้อยาง (Wheel Loader)

รถตักขนาด 120 แรงม้า สามารถดันและตักดิน หิน และ ทรายได้ 560 ลบ.ม.ต่อวัน

การเลือกใช้งานรถตักล้อยาง Read More »

รถบด หรือรถคอมแพคเตอร์ (Compactors)
รถบด หรือรถคอมแพคเตอร์ (Compactors)

ประเภทของรถบด รถบดถนน รถบดยางมะตอย (ASPHALT ROLLER)

รถเครื่องจักร ประเภทรถบด (รถบดยางมะตอย) หรือรถคอมแพคเตอร์ (Compactors) ในงานก่อสร้างที่มีการนำวัสดุมาถมเพื่อทำเป็นคัดหรือถมที่ต่ำให้สูงขึ้นหรือทำเป็นฐานของถนน จำเป็นที่จะต้องมีการบดอัด ทั้งนี้เพื่อให้วัสดุที่นำมาถมนี้สามารถรับแรงได้โดยไม่มีการทรุดตัว ในข้อเท็จจริง ขณะที่เครื่องจักรกลต่างๆ ทำงานถมวัสดุดังกล่าวในการดัน การเกลี่ย และการปรับแต่ง เครื่องจักรกลก็จะทำการบดอัดไปด้วยอยู่แล้ว แต่ยังไม่เป็นการเพียงพอ จำเป็นที่จะต้องมีการบดอัดเพิ่มเติมโดยเครื่องบดอัดเพื่อให้ได้ความแน่นตามต้องการ การบดอัดสามารถทำได้หลายลักษณะโดยเครื่องบดอัดประเภทต่างๆ ซึ่งการเลือกใช้รถบดอัดนั้นจะขึ้นอยู่กับ ชนิด ประเภท และคุณสมบัติของวัสดุที่จะทำการบดอัด

ชนิดของดิน (Soil Types) ที่นำมาบดอัด

วัสดุที่จะทำการบดอัดจะเป็นวัสดุที่เรียกรวมๆ กันว่าดิน ซึ่งสามารถแบ่งออกเป็น 5 ชนิด ตามขนาดและสมบัติคือ

1. กรวด (Gravel) กรวดก็คือหินที่มีขนาดเล็ก โดยปกติหินที่เรียกว่ากรวดนั้นจะมีขนาด ตั้งแต่ 2 – 75 มิลลิเมตร
2. ทราย (Sand) ทรายก็คือกรวดขนาดเล็กที่มีขนาดตั้งแต่ 2 – 0.074 มิลลิเมตร ทราย จะมีคุณสมบัตที่แต่ละเม็ดของทรายจะไม่มีการยึดตัวติดกัน และความแข็งของเม็ดทรายจะไม่เปลี่ยนแปลงเมื่อเปียก
3. ทรายละเอียด (Silt) ทรายละเอียดก็คือทรายที่ถูกป่นจนมีขนาดเล็กคล้ายแป้ง ขนาดของทรายละเอียดจะมีขนาดตั้งแต่ 0.074 มิลลิเมตรลงไป
4. ดินเหนียว (Clay) จะเป็นดินที่มีขนาดเล็กที่สุด ซึ่งจะประกอบด้วยสารที่ยึดเหนี่ยวกันไว้ จนทำให้โคลนมีคุณสมบัติที่ยืดหยุ่นได้ เมื่อแห้งจะแข็งมาก
5. อินทรีย์สาร (Organic Matter) ได้แก่พวกสารที่มีชีวิตต่างๆ ที่ปนอยู่ในดิน เช่น พวกพืช เป็นต้น อินทรีย์สารเหล่านี้จะเปลี่ยนแปลงและจะทำให้เกิดช่องว่างในดิน

รถบดล้อยาง (Rubber Tire Roller Compactor)

รถบดล้อยาง
รถบดถนนแบบล้อยางส่วนใหญ่ประกอบด้วยล้อยางบดคู่หน้าหลังและล้อยางบดระบบไฮดรอลิค เนื่องจากอุปกรณ์เกียร์ที่ใช้ รถบดถนนล้อยางบดคู่หน้าหลังเป็นอุปกรณ์ที่มีคุณภาพในการอัดสูงสำหรับงานที่ ต้องการคุณภาพสูงเช่นทางหลวง, สนามบิน, สร้างถนนและฐานโรงงานอุตสาหกรรม โดยเฉพาะการอัดพื้นยางมะตอยขั้นสุดท้ายบนทางหลวง เครื่องยนต์ Cummins ที่ใช้ทำให้รถบดนี้มีพลังงานที่สูง รถบดถนนล้อยางบดแบบระบบไฮดรอลิคติดตั้งเครื่องยนต์ของ Cummins ระบบขับเคลื่อนไฮดรอลิคแบบเปลี่ยนเกียร์โดยไม่ต้องเหยียบ, ยางหน้า 5 เส้น และหลัง 6 เส้น เหมาะกับงานที่ต้องการคุณภาพสูง เช่นทางหลวง, สนามบิน, สร้างถนนและฐานโรงงานอุตสาหกรรมโดยเฉพาะการอัดพื้นยางมะตอยขั้นสุดท้ายบนทางหลวง

ความสามารถในการทำงานของรถบดล้อยาง (Rubber Tire Roller compactor)

1. งานลูกรังบดอัดทับแน่น สามารถทำงานได้ 600 ลบ.ม.ต่อวัน
2. งานบดอัดทับแน่นหินคลุก สามารถทำงานได้ 290 ลบ.ม.ต่อวัน
3. งานบดอัดทับแน่น 85% (งานทั่วไป) สามารถทำงานได้ 660 ลบ.ม.ต่อวัน
4. งานบดอัดทับแน่น 95% (งานทั่วไป) สามารถทำงานได้ 600 ลบ.ม.ต่อวัน
5. งานบดอัดทับแน่น 95% (งานเขื่อน) สามารถทำงานได้ 640 ลบ.ม.ต่อวัน
6. งานบดอัดทับแน่น 98% (งานเขื่อน) สามารถทำงานได้ 575 ลบ.ม.ต่อวัน

รถบดล้อหนามแบบสั่นสะเทือน (Steel Wheel Rollers)

รถบดล้อหนามแบบสั่นสะเทือน (Steel Wheel Rollers)
เป็นทั้งเครื่องกลและไฮดรอลิคขึ้นอยู่กับระบบขับเคลื่อน เครื่องจักรประเภทนี้เหมาะสำหรับกองวัสดุที่ไม่ยึดติดกันเช่น ดินลูกรัง, ก้อนกรวด, หินปนทราย, ดินทราย, หินก้อนเล็กและอื่นๆ พร้อมกับแรงหนี ศูนย์กลางบนฐาน, ชั้นรองฐาน, การสร้างเขื่อน, ซึ่งเป็นอุปกรณ์ที่เหมาะที่สุดกับการสร้างที่ต้องการคุณภาพสูงเช่น ทางด่วน, สนามบิน, ท่าเรือ, เขื่อนและฐานของโรงงานอุตสาหกรรม และยังมีรถบดถนนล้อเหล็กหน้าที่เหมาะกับการใช้งานบนความสูงมากกว่า4,000เมตร อีกด้วยขึ้นอยู่กับดีไซน์และความต้องการรถบดถนนล้อเหล็กหน้านี้มีห้องขับที่ปิดมิดชิดและแข็งแรงเป็นพิเศษ นอกจากนี้ยังมีเครื่องวัดความหนาแน่นแบบดิจิตอลเพื่อการันตีคุณภาพอีกด้วย

ความสามารถในการทำงานรถบดล้อหนามแบบสั่นสะเทือน (Steel Wheel Rollers)

1. งานลูกรังบดอัดทับแน่น สามารถทำงานได้ 600 ลบ.ม.ต่อวัน
2. งานบดอัดทับแน่นหินคลุก สามารถทำงานได้ 290 ลบ.ม.ต่อวัน
3. งานบดอัดทับแน่น 85% (งานทั่วไป) สามารถทำงานได้ 660 ลบ.ม.ต่อวัน
4. งานบดอัดทับแน่น 95% (งานทั่วไป) สามารถทำงานได้ 600 ลบ.ม.ต่อวัน

รถบดล้อเหล็กเรียบแบบสั่นสะเทือน (Steel Wheel Rollers)

รถบดล้อหนามแบบสั่นสะเทือน (Steel Wheel Rollers)
เป็นทั้งเครื่องกลและไฮดรอลิคขึ้นอยู่กับระบบขับเคลื่อน เครื่องจักรประเภทนี้เหมาะสำหรับกองวัสดุที่ไม่ยึดติดกันเช่น ดินลูกรัง, ก้อนกรวด, หินปนทราย, ดินทราย, หินก้อนเล็กและอื่นๆ พร้อมกับแรงหนีศูนย์กลางบนฐาน, ชั้นรองฐาน, การสร้างเขื่อน, ซึ่งเป็นอุปกรณ์ที่เหมาะที่สุดกับการสร้างที่ต้องการคุณภาพสูงเช่น ทางด่วน, สนามบิน, ท่าเรือ, เขื่อนและฐานของโรงงานอุตสาหกรรม และยังมีรถบดถนนล้อเหล็กหน้าที่เหมาะกับการใช้งานบนความสูงมากกว่า4,000เมตร อีกด้วยขึ้นอยู่กับดีไซน์และความต้องการ

ความสามารถรถบดล้อเหล็กเรียบแบบสั่นสะเทือน (Steel Wheel Rollers)

1. งานลูกรังบดอัดทับแน่น สามารถทำงานได้ 600 ลบ.ม.ต่อวัน
2. งานบดอัดทับแน่นหินคลุก สามารถทำงานได้ 290 ลบ.ม.ต่อวัน
3. งานบดอัดทับแน่น 85% (งานทั่วไป) สามารถทำงานได้ 660 ลบ.ม.ต่อวัน
4. งานบดอัดทับแน่น 95% (งานทั่วไป) สามารถทำงานได้ 600 ลบ.ม.ต่อวัน

รถบดล้อหนามขนาดใหญ่ (Sheepsfoot Rollers)

รถบดล้อหนามขนาดใหญ่ (Sheepsfoot Rollers)
การบดอัดดินเป็นกระบวนการอย่างหนึ่งที่จะเพิ่มความหนาแน่นหรือความต้านทานของดินขึ้น โดยพยายามไม่ให้มีช่องว่างของอากาศแทรกอยู่ และขับไล่น้ำให้ออกไปจากช่องว่างเหล่านั้น เพื่อให้พื้นดินเกิดความมั่นคงสามารถรับน้ำหนักได้มากขึ้น เหมาะสำหรับดินประเภททรายที่มีลักษณะคละกันของตะกอนกรวดและดินเหนียว ไม่เหมาะกับพื้นที่เป็นทรายหรือดินเหนียวที่อ่อนนุ่ม

ประเภทของรถบดถนน Read More »

รถเกรด เกลี่ยดิน ขับเคลื่อนด้วยตัวเอง
รถเกรด เกลี่ยดิน ขับเคลื่อนด้วยตัวเอง

การทำงานของรถเกรด รถเกลี่ยดิน (Motor Grader)

การทำงานของรถเกรด รถเกลี่ยดิน เป็นเครื่องจักรกลอีกประเภทหนึ่งของเครื่องจักรกลงานดิน ซึ่งจะใช้ในงานขุด เกลี่ยและตบแต่งผิว สำหรับงานสร้างถนนหรืองานปรับระดับพื้น รถเกลี่ยจะเป็นเครื่องจักรกลล้อยางแบบขับเคลื่อนด้วยตัวเอง มีทั้งแบบ 4 ล้อ ขับเคลื่อน 2 ล้อ และ 4 ล้อ แบบ 6 ล้อ ขับเคลื่อน 2 ล้อ, 4 ล้อ และ 6 ล้อ ขนาดของตัวรถซึ่งนิยมกำหนดด้วยขนาดของเครื่องยนต์มีให้เลือกตั้งแต่ขนาด 50 แรงม้าจนถึง 350 แรงม้า

ลักษณะของงานที่รถเกลี่ยดินสามารถทำได้นั้น มีหลายลักษณะงานด้วยกัน แต่ที่สำคัญๆ นั้นได้แก่

1. การกระจายกองวัสดุ (Spreading a Pile)

สามารถทำได้โดยการเลื่อนใบมีดออกด้านข้าง แล้วเข้าไปดันให้กองวัสดุกระจายออกทีละน้อย ซึ่งล้อของรถเกลี่ยจะไม่ปีนกองวัสดุ และในขณะที่ดันกองวัสดุออกก็ค่อยๆ ยกใบมีดขึ้นเพื่อจะเกลี่ยวัสดุด้านหน้าของใบมีดให้กระจายออก
การกระจายกองวัสดุ (Spreading a Pile)

2. การปรับระดับพื้นที่ขรุขระ

การปรับระดับพื้นที่ขรุขระ เช่น การซ่อมถนนลูกรังหรือถนนดินประเภทอื่น การปรับระดับสามารถกระทำได้ โดยการขูดผิวพื้นเดิมที่ขรุขระออก ซึ่งในการขูดนั้นใบมีดของรถเกลี่ยจะลดลงและเอียงให้วัสดุที่ถูกขูดออกไหลไปกองไว้ด้านข้าง หลังจากนั้นก็จะเกลี่ยกองวัสดุมายัง บริเวณที่ถูกขูดออกอีกและปรับให้ได้ระดับ

การปรับระดับของพื้น (Leveling The Floor)

การปรับระดับของพื้น (Leveling The Floor)

3. การตัดร่องน้ำ (Cutting Gutter)

โดยทั่วไปแล้วในการสร้างถนน ขอบของถนนจะตัดเป็นร่องน้ำ ซึ่งรถเกลี่ยจะทำการตัดร่องน้ำโดยการกดใบมีดด้านที่จะตัดลง และยกใบมีดอกด้านหนึ่งขึ้นพร้อมกับเสียงใบมีดเพื่อให้วัสดุที่ถูกตัดออกมากองด้านข้าง การตัดนี้จะค่อยๆ ทำหลายๆ ครั้งจนได้ความลึกและความกว้างตามต้องการ ซึ่งการตัดอาจกระทำสลับกับการเกลี่ยกองวัสดุที่ถูกตัดออกขึ้นมาบนพื้นถนน

การตัดร่องน้ำ

การตัดร่องน้ำ (Trench Cutting)

กิจกรรมการทำงานรถเกรด รถเกลี่ยดิน

งานถางป่า

งานถางป่าของรถเกรด
กิจกรรมถากถาง (ป่าโปร่ง) ใช้รถปาดเกลี่ยดินขนาด 150 แรงม้า
สามารถทำงานได้ 8 ไร่/วัน

งานพื้นทางหินคลุก

งานพื้นทางหินคลุกของรถเกรด
รถปาดเกลี่ยดินขนาด 120 แรงม้า
สามารถทำงานได้ 290 ลบ.ม/วัน

รถมอเตอร์เกรดขนาด 120 แรงม้า สามารถทำงานได้

1. งานถางป่าล้มต้นไม้ สามารถทำได้ 3.50 ไร่ ต่อวัน
2. งานลูกรังบดอัดแน่น สามารถทำได้ 600 ลบ.ม. ต่อวัน
3. งานผสมหินคลุก สามารถทำได้ 290 ลบ.ม. ต่อวัน
4. งานบดอัดแน่น 85% (งานทั่วไป) สามารถทำได้ 660 ลบ.ม.ต่อวัน
5. งานบดอัดแน่น 95% (งานทั่วไป) สามารถทำได้ 600 ลบ.ม.ต่อวัน
6. งานบดอัดแน่น 95% (งานเขื่อน) สามารถทำได้ 640 ลบ.ม.ต่อวัน
7. งานบดอัดแน่น 98% (งานเขื่อน) สามารถทำได้ 575 ลบ.ม.ต่อวัน

การทำงานของรถเกรด Read More »

รถแทรกเตอร์ตีนตะขาบทั้งแบบธรรมดา แบบกว้าง แบบทำลาย
รถแทรกเตอร์ตีนตะขาบทั้งแบบธรรมดา แบบกว้าง แบบทำลาย

ประเภทรถแทรกเตอร์ตีนตะขาบ มีอะไรบ้าง??

ลักษณะการใช้งานรถดัน หน้าที่รถแทรกเตอร์ สามารถแบ่งลักษณะ โดยมีด้วยกันดังนี้

รถแทรคเตอร์ตีนตะขาบ (Bulldozer Tractor)
รถแทรคเตอร์ตีนตะขาบ
(Bulldozer Tractor)
รถแทรคเตอร์ตีนตะขาบกว้าง (Low Ground)
รถแทรคเตอร์ตีนตะขาบกว้าง
(Low Ground)
รถดันตีนตะขาบติดเครื่องทำลาย Ripper
รถดันตีนตะขาบติดเครื่องทำลาย
(Ripper)

รถแทรคเตอร์ตีนตะขาบ (Bulldozer Tractor)

รถแทรคเตอร์ตีนตะขาบ (Bulldozer Tractor)
รถแทรคเตอร์ตีนตะขาบ (Bulldozer Tractor)

ข้อดีของรถแทรกเตอร์ตีนตะขาบเมื่อใช้ในงานก่อสร้างก็คือ

  • สามารถใช้กำลังในการขับเคลื่อนได้สูง เนื่องจากจะไม่เกิดการลื่นไถลได้ง่ายโดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อทำงานบนพื้นที่ไม่แน่นอน
  • สามารถทำงานบนพื้นที่เป็นดินและบริเวณที่มีหินแหลมคมได้ เพราะหินแหลมคมจะไม่ทำให้ชุดสายพานตีนตะขาบชำรุดได้ง่าย
  • สามารถทำงานในพื้นที่ขรุขระได้ดี จึงทำให้ลดค่าใช้จ่ายในการเตรียมพื้นที่ในการทำงาน
  • สามารถทำงานในพื้นที่ลุ่มได้ดี เพราะมีการลอยตัว (Floatation) ดีหรือความดันที่กดลงบนพื้น (Ground Pressure) ต่ำนั่นเอง
รถดันตีนตะขาบ ก็คือเครื่องจักรกลที่เปลี่ยนกำลังของเครื่องยนต์ให้เป็นกำลังขับเคลื่อน โดยส่งกำลังจากเครื่องยนต์ไปหมุนล้อเฟือง (Sprocket) เพื่อไปขับชุดสายพานตีนตะขาบให้เคลื่อนที่ไปและทำให้แผ่นตีนตะขาบซึ่งติดอยู่กับสายพานตีนตะขาบตะกุยไปบนพื้น ทำให้ตัวรถเคลื่อนที่ไป

รถแทรคเตอร์ตีนตะขาบกว้าง (Low Ground)

รถแทรคเตอร์ตีนตะขาบกว้าง (Low Ground)
รถแทรคเตอร์ตีนตะขาบกว้าง (Low Ground)
สามารถทำงานในพื้นที่ลุ่มได้ดี เพราะมีการลอยตัว (Floatation) ดีหรือความดันที่กดลงบนพื้น (Groung Pressure) ต่ำนั่นเอง

รถดันตีนตะขาบติดเครื่องทำลาย (Ripper)

รถดันตีนตะขาบติดเครื่องทำลาย Ripper
รถดันตีนตะขาบติดเครื่องทำลาย Ripper
รถดันตีนตะขาบติดเครื่องทำลาย Ripper
เครื่องทำลายที่ติดกับรถดันตีนตะขาบจะใช้ในการขุดหิน ที่ไม่แข็งนักแทนการระเบิด โดยทั่วไปความแข็งของหินจะนิยมวัดโดยใช้เครื่องมือ Seismograph ซึ่งจะวัดความเร็วของคลื่นเสียงผ่านหินชนิดต่างๆ สำหรับความเร็วของคลื่นสียงจะมีค่าตั่งแต่ 300 เมตร/วินาที ในดินอ่อนจนถึง 6,000 เมตร/วินาทีในหินแข็ง คราดจะทำงานได้ดีสำหรับหินที่มีค่าความเร็วของคลื่นสียง 1,000 -2,000 เมตร/วินาที และหินควรจะมีรอยแตกหรือรอยแยกเปราะและเป็นชั้นๆกรมชลประทานมีใช้อยู่ประเภทเดียว คือรถดันตีนตะขาบติดเครื่องทำลาย (Ripper)ใช้ในงานประเภทดิน หิน

ความสามารถของรถดันตีนตะขาบติดเครื่องทำลาย (Ripper)

  1. สามารถขูดหรือขุด หิน ที่แข็งไม่มากนักแทนการระเบิด
  2. สามารถขุดดินขุดยากที่มีพื้นที่กว้างและหินที่มีความแข็งไม่มากนัก
  3. สามารถขูดหินผุที่เป็นพื้นที่ลาดชัน หรือพื้นที่แคบๆ แทนการระเบิด

กิจกรรมการทำงานรถดัน รถแทรกเตอร์ตีนตะขาบ

ถางป่า

งานถางป่าของรถแทรคเตอร์ตีนตะขาบ
รถดันตีนตะขาบ ขนาด 270 แรงม้า
สามารถทำงานได้ 3.50 ไร่/วัน

งานดันและตัก

งานดันและตักของรถแทรคเตอร์ตีนตะขาบ
รถดันตีนตะขาบ ขนาด 140 แรงม้า
สามารถทำงานได้ 560 ลบ.ม/วัน

งานดันและตัก

งานดันและตักของรถแทรคเตอร์ตีนตะขาบ
รถดันตีนตะขาบติดเครื่องทำลาย (Ripper)
ขนาด 270 แรงม้า
สามารถทำงานได้ 560 ลบ.ม/วัน

ประเภทรถแทรกเตอร์ตีนตะขาบ มีอะไรบ้าง Read More »

การทำงานระบบไฮดรอลิกของรถขุด รถแบคโฮ รถแม็คโคร
การทำงานระบบไฮดรอลิกของรถขุด รถแบคโฮ รถแม็คโคร

การทำงานของรถขุดแบบตักเข้าหาตัวรถ

ลักษณะการทำงานรถขุด หน้าที่รถขุดดิน แบบตักเข้าหาตัวรถในปัจจุบันจะเป็นแบบที่ทำงานโดยระบบไฮดรอลิกล้วน ทั้งการขับเคลื่อน การหมุนส่วนบน และการทำงานอุปกรณ์ขุดตัก จึงนิยมเรียกว่า Hydraulic Excavator ซึ่งจะมีทั้งแบบล้อยางที่ขับเคลื่อนด้วยตัวเองและแบบตีนตะขาบ แต่ส่วนใหญ่จะเป็นแบบตีนตะขาบ เพราะสามารถทำงานได้ดีในที่ลุ่มและมีการทรงตัวที่ดีในขณะทำการขุด สำหรับอุปกรณ์ที่สำคัญของรถขุดแบบตักเข้าหาตัวรถ

ส่วนประกอบรถขุด
ส่วนประกอบของรถขุดแบบตักเข้าหาตัวรถ

ระบบไฮดรอลิกของรถขุด แบบเข้าหาตัวรถ

ระบบไฮดรอลิกของรถขุด ตักเข้าหาตัวรถนับว่าเป็นระบบที่สำคัญที่สุด เพราะเป็นระบบที่ใช้ในการควบคุมการทำงานของตัวรถและอุปกรณ์เกือบทั้งหมด ซึ่งประกอบด้วยปั๊มแบบเกียร์ 3 ตัว ปั๊มตัวที่หนึ่งจะส่งน้ำมันไปยังชุดวาล์วควบคุมด้านขวา โดยจะควบคุมการทำงานของกระบอกไฮดรอลิกยกแขนยก (Boom Cylinder) กระบอกไฮดรอลิกของบุ้งกี๋ (Bucket Or Dipper Cylinder) และมอเตอร์ขับเคลื่อนล้อเฟืองตัวขวา ปั๊มตัวที่สองจะส่งน้ำมันไปยังชุดวาล์วควบคุมด้านซ้าย โดยจะควบคุมการทำงานของกระบอกไฮดรอลิกยกแขน มอเตอร์ขับเคลื่อนล้อเฟืองตัวซ้าย กระบอกไฮดรอลิกของแขนต่อ (Dipper Arm Cylinder) และมอเตอร์สำหรับหมุนส่วนบนของตัวรถ (Swing Motor) ส่วนปั๊มตัวที่สามจะส่งน้ำมันไปยังเบรก
ระบบไฮดรอลิกรถขุด
ผังของระบบไฮดรอลิกของรถขุดแบบตักเข้าหาตัวรถ

การทำงานระบบไฮดรอลิกรถขุด Read More »

รถขุดดิน รถแบ็คโฮ รถแม็คโคร มีอยู่หลายแบบ
รถขุดดิน รถแบ็คโฮ รถแม็คโคร มีอยู่หลายแบบ

โครงสร้างรถขุด หรือรถแบคโฮ หรือรถแม็คโคร

ส่วนประกอบรถขุด หรือรถแบคโฮ หรือรถแม็คโคร ซึ่งรถขุดเป็นเครื่องจักรกลสำหรับงานก่อสร้างอีกประเภทหนึ่งที่ทำหน้าที่ในการเคลื่อนย้ายวัสดุซึ่งสามารถจะทำการขุดและตักแล้วเคลื่อนย้ายไปเท โดยทั่วไปจะมีแขนยื่นบุ้งกี๋หรือที่จับออกไปขุดและตัก และจะหมุนส่วนบนของตัวรถไปยังตำแหน่งที่ต้องการ แล้วก็จะเทวัสดุุออกจากบุ้งกี๋หรือที่จับ ส่วนด้านล่างของตัวรถที่สัมผัสกับพื้นจะไม่เคลื่อนย้ายสำหรับการทำงานแต่ละวงจร

รถขุด รถแบคโฮ รถแม็คโคร (Excavator) นี้นิยมแบ่งเป็นแบบต่างๆ ตามลักษณะของการขุดโดยแบ่งออกเป็น

  • รถขุดแบบตักเข้าหาตัวรถหรือตักตามลักษณะการทำงานของจอบ (Hoe)
  • รถขุดแบบตักออกจากตัวรถหรือตักตามลักษณะการทำงานของพลั่ว (Shovel)
  • รถขุดแบบคีบ (Clamshell)
  • รถขุดแบบลากดึง (Dragline)
รถขุดแบบตักเข้าหาตัวรถหรือตักตามลักษณะการทำงานของจอบ
รถขุดแบบตักเข้าหาตัวรถหรือตักตามลักษณะการทำงานของจอบ
(Hoe)
รถขุดแบบตักออกจากตัวรถหรือตักตามลักษณะการทำงานของพลั่ว
รถขุดแบบตักออกจากตัวรถหรือตักตามลักษณะการทำงานของพลั่ว
(Shovel)
รถขุดแบบคีบ
รถขุดแบบคีบ
(Clamshell)
รถขุดแบบลากดึง
รถขุดแบบลากดึง
(Dragline)

โครงสร้างของรถขุดสามารถแบ่งออกเป็น 3 ส่วนคือ

1. ส่วนบนหรือส่วนที่หมุน (Revolving Superstructure) ซึ่งจะประกอบด้วยเครื่องยนต์ ส่วนของระบบถ่ายทอดกำลัง ระบบควยคุมการทำงานของอุปกรณ์และห้องพนักงานขับเคลื่อน
2. ส่วนที่สองก็คือส่วนที่รองรับส่วนที่ (Mounting Or Travel Unit) หมุนหรือส่วนที่ใช้ในการเคลื่อนที่ ซึ่งมีอยู่ 3 แบบ คือ
  • แบบรถบรรทุกล้อยาง (Rubber Tire Carrier Mountings)
  • แบบล้อยางที่ขับเคลื่อนด้วยตัวเอง (Rubber Tire Carrier Mounting Self-Propelled)
  • แบบตีนตะขาบ (Crawler Mounting)
3. ส่วนที่สามก็คือส่วนที่ทำงานขุดซึ่งติดตั้งเข้ากับส่วนบนหรือส่วนที่หมุน (Attachment) โดยทั่วไปก็จะประกอบด้วยแขน แขนต่อ และบุ้งกี๋ ตามลักษณะของการขุดตามที่อธิบายไว้

รายละเอียดของส่วนบน ส่วนที่รองรับ และที่ทำงานขุดตามรูป

โครงสร้างรถขุด
โครงสร้างของรถขุด
ส่วนประกอบรถขุด
ส่วนประกอบของรถขุดแบบตักเข้าหาตัวรถ

โครงสร้างรถขุด Read More »

ประเภทของ เครื่องจักรกลหนัก ที่เหมาะสำหรับงานก่อสร้าง
ประเภทของ เครื่องจักรกลหนัก ที่เหมาะสำหรับงานก่อสร้าง

ประเภทของเครื่องจักรกลหนักที่ใช้ในงานก่อสร้าง

ประเภทของเครื่องจักรกลหนักที่ใช้ในงานก่อสร้างโดยทั่วไปจะถูกกำหนดด้วยลักษณะของงาน วิธีและเทคนิคที่ใช้ในการทำงาน ในปัจจุบันเครื่องจักรกลหนักที่ใช้ในงานก่อสร้างสามารถจำแนกออกเป็น 2 ประเภทใหญ่ๆ คือ

1. เครื่องจักรกลแบบพิเศษที่ออกแบบและผลิตสำหรับใช้งานก่อสร้างงานหนึ่งงานใดโดยเฉพาะ
2. เครื่องจักรกลแบบมาตราฐานที่บริษัทผู้ผลิตผลิตออกมาจำหน่ายในตลาดสำหรับงานก่อสร้างทั่วๆไป
ประเภทของเครื่องจักรกลหนักที่ใช้ในการก่อสร้าง
เครื่องจักรกลหนัก
ประเภทของเครื่องจักรกลหนักที่ใช้ในการก่อสร้าง
เครื่องจักรกลหนัก
ประเภทของเครื่องจักรกลหนักที่ใช้ในการก่อสร้าง
เครื่องจักรกลหนัก
ประเภทของเครื่องจักรกลหนักที่ใช้ในการก่อสร้าง
เครื่องจักรกลหนัก

สำหรับเครื่องจักรกลแบบมาตราฐานนี้สามารถแบ่งเป็นชนิดต่างๆ ตามลักษณะของงานได้คือ

1. เครื่องจักรกลงานย้ายวัสดุแข็งขนาดใหญ่ เครื่องจักรกลชนิดนี้จะใช้สำหรับงานย้ายวัสดุขนาดใหญ่ทั่วๆไป เช่น เสาคาน พื้น บุ้งกี๋คอนกรีต ไม้แบบ เหล็กเส้น โดยจะเคลื่อนย้ายไปในแนวราบหรือแนวดิ่ง หรือทั้งแนวราบและแนวดิ่ง เครื่องจักรกลเหล่านี้ได้แก่ รถยก(โฟคลิฟท์) รถเครน ลิฟท์ และเทาเวอร์เครน เป็นต้น เครื่องจักรกลงานย้ายวัสดุแข็งขนาดใหญ่จะใช้ในการก่อสร้างแทบทุกประการ เช่น งานก่อสร้างอาคารและโครงสร้าง งานสร้างเขื่อน
2. เครื่องจักรกลงานย้ายวัสดุแข็งขนาดเล็ก ซึ่งวัสดุแข็งขนาดเล็กในที่นี้หมายถึงวัสดุที่มีขนาดเล็กมาก เมื่ออยู่รวมกันมากๆ จะไม่มีรูปร่างของตัวเองได้แก่ กรวด ทราย หิน ซีเมนต์ และคอนกรีต เป็นต้น เครื่องจักรกลที่ใช้สำหรับงานขนย้ายวัสดุประเภทนี้คือ เครื่องลำเลียง(conveyors) ชนิดต่างๆ
3. เครื่องจักรกลงานผสมวัสดุ เครื่องจักรกลชนิดนี้ใช้ในการผสมวัสดุหลายชนิดเข้าด้วยกัน ได้แก่ เครื่องผสมคอนกรีต และเครื่องผสมแอสฟัลต์ เป็นต้น
4. เครื่องจักรกลสำหรับเคลื่อนย้ายของไหล เครื่องจักรกลชนิดนี้จะใช้ในการสูบอัดของไหล เช่น ก๊าซและของเหลว เครื่องจักรประเภทนี้ได้แก่เครื่องอัดอากาศ เครื่องสูบน้ำ และปั๊มคอนกรีต เป็นต้น
5. เครื่องจักรกลงานเจาะและตอก ได้แก่ เครื่องเจาะชนิดต่างๆ และเครื่องตอกเสาเข็ม เป็นต้น
6. รถบรรทุกประเภทต่างๆ ซึ่งใช้ในการขนย้ายวัสดุไปไกล ได้แก่ รถบรรทุกเทท้าย รถบรรทุกน้ำ และรถบรรทุกกระบะ เป็นต้น
7. เครื่องจักรกลงานทำและซ่อมผิวพื้น ได้แก่ เครื่องขูดผิวแอสฟัลต์ เครื่องปูผิวแอสฟัลต์ และเครื่องปูผิวคอนกรีต เป็นต้น
8. เครื่องจักรกลงานดิน เครื่องจักรกลเหล่านี้จะใช้ในงาน ขุด ขูด ตัด ขนย้าย บดอัด และตกแต่งผิวดิน (รวมทั้งหิน และวัสดุอื่นๆ ที่เป็นส่วนประกอบของพื้นดิน ได้แก่ แร่ธาตุ ต้นไม้ เป็นต้น) เครื่องจักรกลงานดิน เป็นเครื่องจักรกลที่จะต้องใช้งานหลายประเภท จึงมีเครื่องกลหลายชนิด แต่ละชนิดอาจจะทำงานได้หลายประเภทซึ่งพอสรุปชนิดของเครื่องจักรกลตามประเภทของงานได้ดังตาราง
ชนิดเครื่องจักรกลหนัก การทำงานเครื่องจักรกลหนักแต่ละชนิด

ประเภทของเครื่องจักรกลหนักที่ใช้ในงานก่อสร้าง Read More »

error: Copyright of MixxMachinery.