ซานี่
หน้าที่การทำงานของเครนยกพื้น
เครนยกพื้นเป็นเครนสี่ล้อขนาดเล็ก (Carry Deck crane) ที่มีบูมหมุนได้ 360 องศาตั้งอยู่ตรงกลางเครื่อง เป็นประเภทเครนยกพื้นแบบอเนกประสงค์ ใช้สำหรับการยกวัสดุที่ต้องการปั้นจั่นทรงเตี้ยและกะทัดรัด เนื่องจากเครนยกพื้นมีขนาดเล็ก จึงเหมาะอย่างยิ่งเมื่อต้องใช้งานในพื้นที่แคบ มีพื้นที่จำกัดหรือบริเวณสิ่งกีดขวางเหนือศีรษะ เครนยกพื้นสำหรับพกพาจึงถูกสร้างขึ้นสำหรับงานที่หลากหลายในไซต์งาน ตั้งแต่เหล็กกล้าไปจนถึงการก่อสร้างสำหรับงานยกต่างๆ ซึ่งสามารถยก ลดระดับ และเคลื่อนย้ายสินค้าที่แขวนลอยในแนวนอนได้
คุณลักษณะเครนยกพื้น
สามารถมีการเคลื่อนที่ไปรอบๆ ไซต์งานได้เหมือนรถบรรทุก โดยมีล้อในการเคลื่อนตัว ถือว่ามีความคล่องตัวสูง และเครนยกพื้นประเภทนี้สามารถยกวัสดุก่อสร้างได้อย่างง่ายดาย
หากเปรียบเทียบลักษณะในไซต์งานขนาดเล็ก เครนยกพื้นประเภทนี้สามารถแทนที่อุปกรณ์ขนาดใหญ่อื่นๆ ได้หลายชิ้น ช่วยประหยัดเวลาและค่าใช้จ่ายได้
เครนยกพื้นทำงานอย่างไร?
เครนยกพื้นสำหรับพกพาเป็นมากกว่ารถบรรทุกที่มีบูมยก ความโดดเด่นของเครนยกพื้น คือ สามารถขนส่งและยกวัสดุที่คุณต้องใช้รอบไซต์งาน อย่างมีประสิทธิภาพ มีปั้นจั่นที่สามารถวางวัสดุบนดาดฟ้าของตัวเองและนำออกไปที่อื่นได้
อุปกรณ์เสริมของเครนยกพื้น
ส่วนขยายของบูม
ไฟบูมทำงาน
ห้องโดยสารสำหรับทุกสภาพอากาศ
ขับเคลื่อนสี่ล้อ
ลดเสียงรบกวน
ปกติที่จะเห็นการใช้งานนี้ในอุตสาหกรรมและงานบำรุงรักษาจำนวนมาก
รถเครนตีนตะขาบ บทบาทในอุตสาหกรรม
บทบาทในงานก่อสร้างของรถเครนตีนตะขาบ มีความสำคัญโดดเด่นเรื่องการยกของอย่างมาก มีความสามารถในการยกที่หลากหลาย มีความต้องการในหลายอุตสาหกรรม
ข้อได้เปรียบหลักของปั้นจั่นรถเครนตีนตะขาบ
คือสามารถเคลื่อนที่ไปรอบๆ ไซต์งานและดำเนินการลิฟต์ แต่ละตัวโดยมีการตั้งค่าเพียงเล็กน้อย เนื่องจากเครนมีความมั่นคงบนรางรถไฟโดยไม่มีแขนโยก ทั้งยังสามารถบรรทุกสิ่งของได้
ความสามารถที่โดดเด่นของรถเครนตีนตะขาบ Sterett เริ่มต้นด้วยรุ่นต่างๆ มากมาย ซึ่งรวมถึง:
รถเครนตีนตะขาบ Lattice boom
รถเครนตีนตะขาบแบบยืดไสลด์
รถเครนบูมตาข่าย
เครนตีนตะขาบของเรายังมีรูปแบบที่เป็นไปได้มากมาย:
ส่วนขยายของบูม ชุดกังหันลม luffing jib ลิฟต์ยกเรือ อุปกรณ์ต่อพ่วง superlift เกวียนแบบมีล้อ ถาดถ่วงน้ำหนัก และโมดูลอื่นๆ สามารถเพิ่มได้ตามต้องการ การออกแบบโมดูลาร์ช่วยให้คุณมีความยืดหยุ่นในการปรับเครนให้เข้ากับความต้องการเฉพาะของโครงการของคุณ ส่วนบูมของโมดูล “เลื่อนเข้า” เพื่อประสิทธิภาพในการขนส่ง
การใช้งานรถเครนตีนตะขาบในแต่ละอุตสาหกรรม
การก่อสร้างโยธา
งานก่อสร้างถนน ทางรถไฟ ท่าเรือ สนามบิน และสร้างต่อเติมสะพานที่มีขนาดใหญ่และน้ำหนักที่มากได้ สามารถใช้งานได้แม้อยู่บรเวณพื้นที่ภูมิประเทศเป็นภูเขา มีเนินสูง หรือแอ่งน้ำ เป็นตัวเชื่อมแม่น้ำ หุบเขา ถนน ให้คนสามารถสัญจรได้สะดวก
งานอุตสาหกรรม
การมียกของหนักมากๆได้อย่างมีประสิทธิภาพ รับน้ำหนักได้มากถึง 3,000 ตัน ทำงานในส่วนของการสร้างศูนย์โลจิสติกส์ การประกอบโรงงานผสม การติดตั้งอาคารโรงแรม เครนตีนตะขาบเป็นตัวเลือกที่เหมาะสม
งานปิโตรเคมีและโรงไฟฟ้า
การทำงานต้องมีความน่าเชื่อถือ ความปลอดภัยในระดับสูงสุด ต้องความถูกต้อง100% บทบาทอย่างปรับปรุงโรงกลั่นน้ำมันปิโตร ต้องยกเสาหลายตัน
พลังงานลม
การใช้งานด้านการปฏิวัติพลังงาน เป็นการติดตั้งพลังงานสีเขียว ซึ่งการติดตั้งกังหันลมนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย ดังนั้นการวิเคราะห์จากสถานที่การติดตั้งมีบนบกหรือบนภูเขา พื้นที่ราบ หรือแม้แต่ไซต์นอกชายฝั่ง
ท่าเรือและเครนลอยตัว
ทำงานยกบนแท่นลอย วัสดุก่อสร้างใช้ขนส่งบริเวณแม่น้ำ ดำเนินการยกโครงสร้างลอยตัว เครนตีนตะขาบ Liebherr ได้รับการรับรองสำหรับการยกของบนเรือบรรทุก สามรรถทำงานได้โดยเฉพาะในเมืองที่มีพื้นที่คับแคบ
รองพื้นลึก
สามารถใช้เป็นเครื่องลำเลียงสำหรับงานฐานรากลึก เมื่อติดตั้งตัวนำแบบตายตัวหรือแบบแกว่ง มีบทบาทตอกเสาเข็มทั่วไป แท่นเจาะทุกประเภท
รถเครนตีนตะขาบมีอุปกรณ์ด้านความปลอดภัยมากมาย
แต่หากผู้ควบคุมต้องมีความเชี่ยวชาญ มีความเข้าใจในการใช้งานของประเภทเครนนั้นๆอย่างเข้มงวด
ประโยชน์ของเครนภูมิประเทศทั้งหมด
เครนภูมิประเทศ (All Terrain Cranes) ใช้งานได้หลายประเภทไซต์งานและเป็นประโยชน์กับทุกโครงการอย่างยิ่ง
เครนภูมิประเทศ มีประโยชน์อย่างไร? ข้อดีของรถเครนประเภทนี้ คือ สามารถทำงานได้อย่างคล่องตัวบนภูมิประเทศและสภาพอากาศทุกประเภทมากกว่า สภาพพื้นที่วิบากและภูมิประเทศที่ขรุขระ การเคลื่อนที่รวดเร็วบนถนนสาธารณะ ทั้งยังมีความสามารถในการยกของสูง
ประโยชน์ของเครนภูมิประเทศ
1. การเคลื่อนย้าย – ควบคุมด้วยระบบกันสะเทือนแบบบังคับเลี้ยวแบบขับเคลื่อนทุกล้อ มีความคล่องตัวในการอย่างสูงในการเคลื่อนที่ รอบโครงการก่อสร้าง เคลื่อนที่ผ่านทรายหรือกรวด ตลอดจนแอสฟัลต์ สามารถเคลื่อนย้ายได้ทุกที่ ทำหน้าที่ที่หลากหลายได้ดี เหมาะสำหรับงานพื้นผิวขรุขระ ไม่มีทางเข้าถึงถนน
2. ความสามารถในการยก – ขึ้นอยู่กับขนาดปั้นจั่น ทั่วไปสามารถยกอันทรงพลัง ยกได้ตั้งแต่ 90 ตัน จนถึง 440 ตัน ความสามารถในการยกสูงหลากหลาย เคลื่อนย้ายวัตถุมีน้ำหนักได้คล่องตัว
3. ความเร็ว – ขับเคลื่อนมีความเร็ว 55 ไมล์ต่อชั่วโมง เคลื่อนที่ตามบริเวณไซต์งานได้อย่างอิสระ ทำให้งานเสร็จสมบูรณ์โดยง่ายดาย
4. กะทัดรัด – ลักษณะเครนประเภทนี้มีการออกแบบที่กะทัดรัด มีประสิทธิภาพมาก ทำให้สามารถเคลื่อนย้ายได้ในจุดที่ต้องการ ความกะทัดรัดนี้ช่วยให้เครนสามารถเคลื่อนย้ายได้คล่องตัว เข้าถึงพื้นที่ไซต์งานได้โดยง่าย
5. มีประสิทธิภาพ – บูมถูกรวมเข้าด้วยกัน ยิ่งประสิทธิภาพมาก การยืดบูมและยกได้ตามต้องการอย่างง่ายดาย
6. อเนกประสงค์ – สามารถปรับเพื่อให้ใช้งานได้อย่างหลากหลายตามสภาพพื้นที่ไซต์งานก่อสร้าง ส่วนปั้นจั่น สามารถทำงานได้ทั้ง ยก ลาก เอื้อม ถึง ต่างๆ
7. ทนทาน – ปั้นจั่นเหล่านี้ทนทานและยืดหยุ่น พร้อมทำงานทุกสภาพอากาศ ทุกสภาพพื้นที่
8. ความปลอดภัย – เน้นความปลอดภัยสำหรับผู้ปฏิบัติงาน มีทัศนวิสัยที่ดี มองเห็นไซต์งานได้ชัดเจน เนื่องจากความปลอดภัยต้องโดยคำนึงเผ็นหลัก ถทอว่าเป็นสิ่งสำคัญไม่น้อยสำหรับทุกโครงการก่อสร้าง
เครนติดรถบรรทุก คืออะไร?
เครนติดรถบรรทุก ใช้รถบรรทุกติดตั้งเครน มีหลายแบบทั้ง 6,10,12 ล้อแล้วแต่ขนาด ติดตั้งเครนไว้ส่วนบนของตัวรถ มีส่วนประกอบด้วยของหมุนแท่งบูม มีเครนอยู่ด้านหลังของห้องโดยสาร การใช้งานขนส่งของหนักเช่น ยานพาหนะพิเศษ (เช่น เรือ เรือยอทช์ และครุยเซอร์) ถ่ายสินค้าจากดาดฟ้าของรถบรรทุก หรือเรียกว่า เรียกว่า “Hiab” “รถเฮี๊ยบ” (ตามผู้ผลิตดั้งเดิม) ต่างจากเครนเคลื่อนที่โดยฌแพาะ เครนติดรถบรรทุกมีหลากหลายแบรนด์ ตอบสนองความต้องการในการยกของที่มีน้ำหนักมาก ที่รวดเร็วแม่นยำ สามารถสั่งการควบคุมทั้งหมดได้เพียงปลายนิ้ว มีแบบพับหลัง และแบบปกติขนาดใหญ่ ยกได้ 8 ตัน สามารถขับเคลื่อนบนพื้นถนนเรียบ สามารถวิ่งไปไซต์งานต่างๆ ได้ด้วยตัวเองเหมือนรถบรรทุกทั่วไป
ไดรฟ์ของเครนสามารถเป็นไฟฟ้าไฮดรอลิกหรือกลจากเครื่องยนต์ โหลดความจุของ 2.5 ถึง 16 ตัน บูมขยายจาก 2 ที่จะ12 เมตร เสริมอุปกรณ์ในรถบรรทุกติดเครน สามารถยืดไปถึง 22 เมตร
ส่วนประกอบของเครนติดรถบรรทุก
Boom & Jib : บูม (Boom) ประกอบด้วยส่วนยืดไสลด์อย่างน้อยหนึ่งส่วนซึ่งขยายเพื่อยกและวางตำแหน่งน้ำหนักให้อยู่ในความสูงที่ต้องการ จิ๊บ (Jib) เป็นโครงตาข่ายที่ติดปลายบูมได้ แขนจับจะทำหน้าที่เป็นแขนรองที่ช่วยให้เครนเข้าถึงได้มากขึ้น โดยลดผลกระทบต่อน้ำหนักบรรทุกโดยรวม เป็นส่วนสำคัญของกลไกการยกของเครน
ปั๊มสองเกียร์ : ปั๊มสองเกียร์เป็นส่วนประกอบสำคัญของเครนติดรถบรรทุกที่ช่วยดันระบบไฮดรอลิก ปั๊มนี้จะเชื่อมต่อกับท่อไฮโดรลิก ลูกสูบ และท่อในวงจร เครื่องยนต์จะให้กำลังกับปั๊มสองเกียร์นี้
Outriggers : เป็นคานแบบยืดหดได้ซึ่งช่วยเพิ่มความมั่นคงของเครนในตำแหน่งที่อยู่กับที่และยกขึ้น ส่วนประกอบนี้จะกระจายน้ำหนักไปที่พื้นผิวเพื่อให้อุปกรณ์หนักมีความมั่นคง
ถ่วงน้ำหนัก : ขนาดใหญ่และหนาที่ใช้ในการทำให้เครนมีเสถียรภาพในขณะที่รับน้ำหนักเรียกว่าถ่วง โหลดนี้จะถูกวางไว้ที่ด้านหลังของเครนเพื่อถ่วงน้ำหนัก
เฟือง Rotex : เป็นเฟืองขนาดใหญ่ที่อยู่ใต้ห้องโดยสารของผู้ควบคุมและควบคุมด้วยตัวควบคุมแบบจอยสติ๊ก เกียร์นี้จะช่วยให้ผู้ปฏิบัติงานสามารถหมุนบูมไปทางซ้ายหรือขวาได้
ข้อดีของรถบรรทุกติดเครน
เครนติดรถบรรทุกมีความยืดหยุ่นสูง:
สามารถยกของ ขนของที่มีน้ำหนัก หรือมีขนาดใหญ่
หากวัตถุไม่ได้มีขนาดใหญ่มากๆ ไม่จำเป็นต้องใช้รถเทรลเลอร์หาง low-bed ในการขนส่ง
ขนย้ายวัสดุได้อย่างปลอดภัย
หากงานที่ไปไม่ต้องใช้เครน ก็สามารถใช้บรรทุกของ สินค้าได้
สามารถขับเคลื่อนช่วยให้เข้าถึงบริเวณไซต์งานได้ง่ายและสะดวก
มีราคาถูกกว่าเครนเคลื่อนที่แบบเฉพาะ
สามารถติดตั้งเพิ่มอุปกรณ์เสริมเพื่อเพิ่มความคล่องตัว เช่น สว่านและกรงบุคลากรได้
ข้อเสียของรถบรรทุกติดเครน
มีข้อจำกัดในการวิ่งบนพื้นถนนที่ค่อนข้างแข็งแรงไม่สามารถวิ่งบนพื้นถนนที่อ่อนหรือลื่นมากได้ เช่น ดินเลนหรือดินที่มีลักษณะอ่อน เพราะตัวรถที่ยาวอาจไม่สามารถเลี้ยวเข้าที่คับแคบได้
เครนรถบรรทุกควบคุมอย่างไร?
เครนติดรถบรรทุกรุ่นใหม่ ส่วนใหญ่ จะมีตัวควบคุมติดตั้งอยู่ที่ด้านใดด้านหนึ่งของตัวรถและมีชุดควบคุมระยะไกลที่ช่วยให้ผู้ปฏิบัติงานสามารถสังเกตน้ำหนักบรรทุกได้จากระยะห่างที่ปลอดภัยแม่นยำ
รถบรรทุกติดเครนใช้อย่างไร?
ตัวอย่างการใช้งานมีดังนี้:
โหลดวัสดุที่ไซต์ก่อสร้าง – อิฐ โครงไม้ ฯลฯ
ใช้ในการกู้คืนหรือส่งมอบยานพาหนะและเครื่องจักร
กำลังโหลดท่อคอนกรีต
การขุดรูโดยใช้สว่านสำหรับเสาไฟฟ้า แล้วยกเสาไฟฟ้าเข้าที่
การตรวจสอบโครงสร้างยกระดับและสายไฟโดยใช้กรงบุคลากร
ยกเศษเหล็ก โดยใช้อุปกรณ์ยึดจับเหล็ก
เครนรางคืออะไร?
เครนราง ใช้ในทางรถไฟ จุดประสงค์หลักพื้นฐานในการใช้งานมีความคล้ายคลึงกัน ถึงแม้ประเภทงานที่ใช้ อาจมีความแตกต่างกันไปบ้างก็ตาม คือ ใช้สำหรับจัดการขนส่งสินค้าทางรถไฟ และการทำงานในด้านการกู้คืนของการเกิดอุบัติเหตุ
ตัวเครนติดตั้งบนเครื่องจักรที่มีความแข็งแรง สามารถหมุนได้ ติดตั้งล้อที่มีหน้าแปลน รองรับบูม เพื่อใช้สำหรับการยกเคลื่อนย้ายวัตถุที่มีน้ำหนัก
หากเครนที่มีขนาดใหญ่ จะมีห้องโดยสารของผู้ปฏิบัติงานไว้คอยควบคุมอยู่ภายใน เครื่องจักรได้รับการติดตั้งอุปกรณ์ขัดเงา หรือข้อต่อเพื่อให้เครนสามารถเคลื่อนย้ายโดยหัวรถจักร ขับเคลื่อนมีการจำกัดในพื้นที่ทำงาน
การใช้งานเครนราง
เครนรางรถไฟมักจะได้รับการออกแบบมาโดยเฉพาะ
รถเครนลานสินค้า
ถือว่าเป็นเครนรางที่เล็กสุด ใช้งานด้วยมือ ไม่ต้องควบคุมแบบขับเคลื่อน มักใช้ในลานสินค้าขนาดใหญ่ ใช้ยกในพื้นที่ที่อยู่ห่างจากเครนขนสินค้าแบบติดตั้งบนพื้น สามารถใช้งานบนท้องถนน มีความสามารถใช้งานแทนเครนที่ติดตั้งบนราง เนื่องจากมีความยืดหยุ่นและคล่องตัวมากขึ้น
เครนบำรุงรักษา
เครนประเภทนี้ เน้นใช้สำหรับงานดูแลบำรุงรักษา
เครนสำหรับกู้อุบัติเหตุ
เครนประเภทนี้มีขนาดใหญ่พอที่จะยกรถจักรที่ตกรางกลับขึ้นรางได้ ใช้สำหรับงานกู้อุบัติเหตุที่พัง อาจต้องใช้เครนสองตัวหรือมากกว่านั้นเพื่อกู้คืนรถจักร ในอเมริกาเหนือ ‘รถเครนพัง’ มักถูกเรียกว่า ‘ตัวทำลาย’ หรือ ‘รถไฟซาก’
เครนรางที่ใช้งานด้านก่อสร้าง
งานทั่วไปที่ใช้ ใช้ตามสถานที่นั้น ซึ่งไม่ต้องขับเคลื่อนไปสถานที่อื่น ใต้จุดศูนย์ถ่วงของเครน คือจุดหมุนที่ช่วยให้เครนหมุนได้ 360° ทำให้เครนสามารถระบุตำแหน่งบูมไซต์งานได้ หากเครนที่มีขนาดใหญ่อาจมีรอกเพื่อให้มีความมั่นคงมากขึ้นเมื่อยก หมอนรองนอน วางไว้ใต้แขนกลเพื่อกระจายน้ำหนักที่ใช้กับแท่นรอง
ประวัติเครนราง
ยุคแรกของการรถไฟ ขนาดหัวรถจักรและรถกลิ้งมีขนาดเล็กพอที่จะขึ้นรางใหม่ด้วยตนเองโดยใช้แม่แรงและรอก แต่เมื่อต่อได้พัฒนาเริ่มมีขนาดที่ใหญ่ขึ้นและหนักขึ้น ทำให้ไม่สามารถใช้วิธีนี้ได้อีก
ต่อทศวรรษ 1980 (หรือ ประมาณปี พ.ศ. 2433) ได้เข้าสู่เครนไอน้ำและเครื่องกว้านสายเคเบิล ได้พัฒนาทำให้มีขนาดเพิ่มขึ้นอีก ทำให้เครนไอน้ำถึงจุดสูงสุดของการพัฒนา (สำหรับบนทางรถไฟ)
ในช่วงทศวรรษ 1980 เครนดีเซลควบคุมด้วยระบบไฮดรอลิกขนาดใหญ่ได้ปรากฏขึ้น ใช้สำหรับการเดินทางบนทางหลวง เพื่อให้สามารถไปถึงที่เกิดเหตุได้ดีขึ้น
ช่วงปลายทศวรรษ 1970 และต้นทศวรรษ 1980 การใช้รถไถตีนตะขาบแบบติดตั้งด้านข้าง (pipelayers) ช่วยให้ผู้รับเหมาสามารถเคลื่อนย้ายไปรอบๆ ไซต์งานได้โดยไม่ต้องใช้เสื่อเครนและตำแหน่งยกหลายตำแหน่ง
จนถึงในปี 1990 ได้มีการพัฒนาเครนรางรถไฟรุ่นใหม่ รถเครนไฮดรอลิกแบบใช้ถนนแบบทั่วไปถูกนำมาใช้กับรถเข็นขนาดเล็กบางรุ่นเพื่อเคลื่อนที่บนรางรถไฟ รุ่นใหม่นี้มีโครงรถไฟความเร็วสูงแบบมืออาชีพที่วิ่งได้สูงถึง 120 กิโลเมตรต่อชั่วโมง (75 ไมล์ต่อชั่วโมง) โครงสร้างส่วนบนเป็นไฮดรอลิกดีเซลพร้อมบูมยืดไสลด์และถ่วงน้ำหนัก ถูกออกแบบสำหรับรางรถไฟโดยเฉพาะ
ผู้ประกอบการเครน ควรรู้เกี่ยวกับการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ควบคุมรถเครน เครื่องจักรกลหนัก (Crane operators should know)
ผู้ปฏิบัติงานหรือเจ้าหน้าที่ควบคุมเครน เกี่ยวกับเครื่องจักรกลหนัก คือผู้ที่บังคับขับเคลื่อนเครน ที่ควบคุมการทำงานของรถเครน หรือเครื่องจักรกลหนักชนิดต่างๆ อย่าง เครน ซึ่งเป็นเครื่องจักรที่ใช้สำหรับงานก่อสร้าง
ประเภทงานก่อสร้าง การใช้งานมีมากมาย คือ ประเภทเครื่องจักรที่ใช้ยก, งานเคลื่อนย้าย, งานติดตั้ง, งานดิน, งานทำถนน, งานคอนกรีต, งานก่อสร้างฐานราก ได้แก่ เครื่องตอกเสาเข็ม, งานขุด งานเจาะ หรืองานอุโมงค์, งานรื้อถอนทำลายสิ่งก่อสร้าง
ซึ่งการออกแบบเครื่องจักร สำหรับการใช้งาน ขั้นตอนการผลิตเพื่อตอบโจทย์ลักษณะของงานที่ทำ รวมทั้งลักษณะอุปกรณ์แต่ละชิ้นถูกสร้างขึ้นเพื่อทำงานที่มีประสิทธิภาพสูงสุดไว้โดยเฉพาะ สำหรับงานขนาดเล็ก อย่างเคลื่อนวัตถุภายในโกดังหรือโรงงาน เครื่องจักรถูกออกแบบมาเพื่อเคลื่อนย้ายกล่อหรือพาเลท
และงานขนาดใหญ่ ถูกออกแบบใช้งานนอกอาคาร นอกสถานที่ ไซต์งานก่อสร้าง เพื่อเคลื่อนย้ายวัตถุสำหรับในการเตรียมการก่อสร้าง
โครงการก่อสร้าง ไม่ว่าจะเล็กหรือใหญ่ หากมีการใช้เครื่องจักร ต้องใช้ความเชี่ยวชาญของผู้ปฏิบัติงานในการควบคุมนเครื่องจักรหนัก ทั้งงาน ก่อสร้างบริษัท การลงทุนภาคเอกชน งานโยธา งานสร้างของเทศบาล รวมถึงการสร้างถนนและสะพาน ชลประทาาน โครงการอื่นๆ
ผู้ปฏิบัติงานควรทราบและมีความรู้ในการใช้งานเครน
ผู้ดำเนินการควบคุมอุปกรณ์ อาจมีเพียงคนเดียวที่ไซต์งาน ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของทีมในการก่อสร้าง ต้องทักษะการฝึกฝนผ่านการฝึกอบรมภาคปฏิบัติหรือโปรแกรมฝึกงานอย่างเป็นทางการ เป็นเรื่องสำคัญที่ผู้ปฏิบัติงานควบคุมเครื่องจักรกลหนักต้องผ่านการฝึกอบรมมาอย่างดี ให้สอดคล้องกับกฎหมายท้องถิ่นและภูมิภาค ที่มีความเกี่ยวข้องกับงานและความปลอดภัยของพนักงาน รวมทั้งการทำงานโดยภาพรวม
การปฏิบัติควบคุม เครน ทุกขั้นตอนต้องคำนึกความปลอดภัย
ต้องมีความรู้ ความ
เข้าใจเบื้องต้นในการใช้งาน โดยผ่านการอบรม
เข้าใจการควบคุมการใช้งานเครื่องจักรอย่างระมัดระวัง ปฏิบัติงานตามคู่มือ
ใส่ชุด หรือสวมใส่อุปกรณ์ป้องกันอันตรายได้อย่างเหมาะสมกับงาน
ทราบและเข้าใจ จุดอันตรายในการทำงาน ขณะที่ควบคุมเครื่องจักรกล
ตรวจเช็คสภาพเครื่องจักร ก่อนการปฏิบัติงานให้พร้อมใช้งานทุกครั้ง
การบำรุงรักษาตามระยะเวลาของเครื่องจักร
แก้ไขหรือซ่อมแซมเครื่องจักร หากเกิดการเสื่อมสภาพอยู่เสมอ
หากพบเครื่องจักรมีความผิกปกติ ชำรุดหรือสูญหายไป ให้รีบแจ้งหัวหน้างานทันที
เพื่อให้การเข้าถึงความรู้เกี่ยวกับรถเครน อย่างลึกซึ้ง
ผมแนะนำให้คุณอ่านบทความรถเครนขั้นเบื้องต้นก่อน ความรู้พื้นฐานรถเครนทั้งหมด
การฝึกอบรมผู้ประกอบการเครน หรือผู้ปฏิบัติหน้าที่เกี่ยวกับเครน หรือปั้นจั่น
โดยผู้ที่ปฏิบัติหน้าที่เกี่ยวกับเครน (ปั้นจั่น) มีการทำงานในสภาพแวดล้อมที่มีอันตรายค่อนข้างสูง หลากหลายรูปแบบการทำงาน เช่น การบังคับเครน ปั้นจั่น, การผูกมัด, การยกเคลื่อนย้ายวัสดุ, การใช้สัญญาณมือระหว่างการปฏิบัติงาน, มีความรู้ในการอ่านค่าตารางพิกัดการยก, มีความสามารถเลือกใช้และการตรวจสอบอุปกรณ์การยก, การประเมินน้ำหนักสิ่งของในการยก, มีทักษะวิธีผูกมัดและการยกเคลื่อนย้ายวัตถุขนาดต่างๆได้ และควรรู้เกี่ยวกับระบบเครื่องยนต์ดีเซลระบบไฮดรอลิกเบื้องต้น ที่ได้รับการฝึกฝน มีการอบรมเพื่อให้เกิดความรู้ความเข้าใจ เพื่อปฏิบัติใช้ในการทำงานให้เกิดความปลอดภัยอย่างสูงสุด
ผู้ปฏิบัติหน้าที่เกี่ยวกับเครน หรือปั้นจั่น ตามกฎหมาย
ผู้ขับเครน คนให้สัญญาณเครน ถือเป็นส่วนหนึ่งของผู้ปฏิบัติหน้าที่เกี่ยวกับเครน ปั้นจั่น จำเป็นต้องฝึกอบรมและผ่านการทดสอบจึงจะสามารถให้ปฏิบัติงานได้ตามกฏหมายที่กำหนด
กฎกระทรวง กำหนดมาตรฐานในการบริหาร จัดการ และดำเนินการด้านความปลอดภัย อาชีวอนามัยและสภาพแวดล้อมในการทำงานเกี่ยวกับ เครื่องจักร ปั้นจั่น และหม้อน้ำ พ.ศ. 2564 (ประกาศในราชกิจจาฯวันที่ 6 สิงหาคม 2564 มีผลบังคับตั้งแต่วันที่ 4 พฤศจิกายน 2564)
ข้อ ๗๒ นายจ้างต้องจัดให้ลูกจ้างซึ่งเป็นผู้บังคับปั้นจั่น ผู้ให้สัญญาณแก่ผู้บังคับปั้นจั่น ผู้ยึดเกาะวัสดุ หรือผู้ควบคุมการใช้ปั้นจั่นผ่านการอบรมเกี่ยวกับขั้นตอนและวิธีการทำงานที่ปลอดภัยในการทำงานของปั้นจั่น การป้องกันอันตรายจากปั้นจั่น รายละเอียดเกี่ยวกับโครงสร้างอุปกรณ์ การตรวจสอบและบำรุงรักษาอุปกรณ์ของปั้นจั่น รวมทั้งการฝึกอบรมทบทวนการทำงานเกี่ยวกับปั้นจั่นแต่ละประเภท โดยวิทยากรซึ่งมีความรู้ ความเชี่ยวชาญ และประสบการณ์การทำงานเกี่ยวกับปั้นจั่นแต่ละประเภท ตามหลักสูตรที่อธิบดีประกาศกำหนด
กฎกระทรวง กำหนดมาตรฐานในการบริหารและการจัดการด้านความปลอดภัย อาชีวอนามัยและสภาพแวดล้อมในการทำงานเกี่ยวกับ เครื่องจักร ปั้นจั่นและหม้อน้ำ พ.ศ. 2552
ข้อ ๖๖ นายจ้างต้องจัดให้ลูกจ้างซึ่งเป็นผู้บังคับปั้นจั่น ผู้ให้สัญญาณแก่ผู้บังคับปั้นจั่น ผู้ยึดเกาะวัสดุ หรือ ผู้ควบคุมการใช้ปั้นจั่น ผ่านการอบรมหลักสูตรการปฏิบัติหน้าที่ดังกล่าว และต้อง จัดให้มีการอบรมหรือทบทวนการทำงานเกี่ยวกับปั้นจั่น ทั้งนี้ ตามหลักเกณฑ์ และวิธีการที่อธิบดี ประกาศกำหนด
แบรนด์ XCMG
Xcmg
XCMG (Mini Wheel Loader LW156 FV)
ข้อมูลจำเพาะ | |
---|---|
ขนาดบุ้งกี๋: | 1.0 mᶟ |
น้ำหนักบรรทุก: | 1200 kg |
น้ำหนักตัวรถ: | 4950 kg |
ความสูงถึงจุดหมุนบุ้งกี๋เมื่อยกเท: | 3730 mm |
ขนาดเครื่องจักร: | 5890 X 2060 X 2900 mm |
รถตัก LW156 FV
รถตักรุ่นเล็ก จัดเต็ม สเปคอัพแน่ ใช้งานคุ้ม ยอดนิยม
ร้านวัสดุก่อสร้าง
แพล้นคอนกรีต
ลานรับซื้อสินค้าทางการเกษตร